นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบอวกาศไม่ใช่สีดำมืด

หลัก การเดินทางในอวกาศ + ดาราศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบอวกาศไม่ใช่สีดำมืด

นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบอวกาศไม่ใช่สีดำมืด

ในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย. นักบินอวกาศสี่คนได้ขึ้นสู่อวกาศโดยเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ NASA และ SpaceX ร่วม Crew-1 ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ เมื่อพวกเขาจากไป ชั้นบรรยากาศของโลก พวกเขาได้รับการต้อนรับด้วยความมืดมิดของอวกาศ หรือเป็นพวกเขา?



ตามที่ การศึกษาใหม่ กำหนดเผยแพร่ใน วารสารดาราศาสตร์ฟิสิกส์ นักวิทยาศาสตร์ได้กำหนดไว้ว่า นอกโลก ไม่เป็นสีดำสนิทเลย จริง ๆ แล้วเต็มไปด้วยแสง ในขณะที่เราทุกคนรู้ว่าดวงดาวปล่อยแสงที่มองเห็นได้ปริมาณมาก แต่โดยทั่วไปแล้วเราคิดว่าพื้นที่โดยรวมนั้นมืดสนิทโดยที่ไม่มีดาว และมันก็มืดแน่นอน แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ ที่ มืด

นักดาราศาสตร์ Tod Lauer จาก National Optical Astronomy Observatory ของรัฐแอริโซนาและทีมนักวิจัยได้ศึกษาแสงในห้วงอวกาศลึกผ่านภารกิจ New Horizons ของ NASA ซึ่งเป็นโครงการที่มีหัวข้อเริ่มต้นคือดาวพลูโต แต่หลังจากเสร็จสิ้นการอยู่อาศัยที่ดาวเคราะห์แคระเป็นเวลาหกเดือนแล้ว ยานอวกาศ New Horizons ก็ถูกส่งไปยังห้วงอวกาศ และปัจจุบันอยู่ห่างจากโลกมากกว่า 4 พันล้านไมล์ ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นระยะทางนั้น ยานอวกาศที่สมบูรณ์แบบในการถ่ายภาพความมืดที่แท้จริงของอวกาศ




ยานอวกาศนิวฮอริซอนส์ ยานอวกาศนิวฮอริซอนส์ ยานอวกาศ New Horizons ของ NASA | เครดิต: NASA

ลอเออร์และทีมงานได้ศึกษาภาพที่ว่างเปล่าที่สุดของภาพถ่ายเหล่านี้ โดยปราศจากวัตถุสว่าง พวกเขาประมวลผลพวกมันเพื่อกำจัดแสงทั้งหมดออกจากแหล่งกำเนิดที่รู้จัก ซึ่งรวมถึงดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้เคียง จากนั้นจึงดึงแสงออกจากกาแลคซีที่สันนิษฐานว่ามีอยู่จริง แต่ยังถูกค้นพบอีกด้วย สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เหลืออยู่คือภาพที่บริสุทธิ์ของห้วงอวกาศที่ไม่มีมลพิษทางแสง อย่างไรก็ตาม พวกเขายังพบแสงสว่าง — มากมาย

'พวกเขาบอกว่าข้างนอกดาราจักรมีแสงสว่างมากพอๆ กับที่อยู่ภายในดาราจักร ซึ่งเป็นยาที่กลืนยากจริงๆ' Michael Zemcov นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จากสถาบันเทคโนโลยีโรเชสเตอร์บอก เอ็นพีอาร์ , ที่เป็นคนเดิมเป็นคนรายงานเรื่องนี้ .

แสงลึกลับนี้มาจากไหน? นักวิจัยยังไม่แน่ใจนัก พวกเขาตั้งทฤษฎีว่าอาจมาจากดาวหรือกาแล็กซีที่เรายังไม่ได้ค้นพบ หรืออาจเป็นสิ่งใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าแหล่งที่มาจะเป็นเช่นไร แสงนี้จะเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงอย่างแน่นอน และเป็นหัวข้อของการวิจัยมากมายในอนาคตข้างหน้า